ส่งของแบบเหมาภาษี (DDP) ทางเลือกเพื่อความพึงพอใจของลูกค้า
- tech primal
- 1 hour ago
- 2 min read
เมื่อต้องส่งสินค้าไปต่างประเทศ ปัญหาที่ผู้ส่งออกมือใหม่หรือแม้แต่มืออาชีพอาจต้องเจออยู่บ่อย ๆ ก็คือ เรื่องของค่าใช้จ่ายที่บานปลาย จนสร้างความไม่พอใจให้แก่ลูกค้า เนื่องจากประเทศปลายทางมีการเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติม แต่ปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น หากมีการทำเงื่อนไขการค้าระหว่างประเทศที่เรียกว่า DDP (Delivered Duty Paid) เอาไว้ก่อนหน้า

DDP Term คืออะไร ? ทำไมการขนส่งแบบ “เหมาภาษี” ถึงเป็นทางเลือกยอดนิยม
เงื่อนไข DDP (Delivered Duty Paid) เป็นหนึ่งในข้อกำหนดของ INCOTERMS ที่กำหนดให้ผู้ขาย หรือผู้ให้บริการ Shipping ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายและความเสี่ยงทั้งหมดตั้งแต่ต้นทางไปจนถึงปลายทางเมื่อสินค้าส่งถึงมือผู้ซื้อ โดยไม่มีข้อยกเว้น เงื่อนไขนี้จึงถูกเรียกว่าการส่งของแบบเหมาภาษีอย่างสมบูรณ์
ความรับผิดชอบหลักภายใต้เงื่อนไข Delivered Duty Paid (DDP)
ตามข้อกำหนดของ DDP Term คือผู้ขายมีหน้าที่รับผิดชอบด้านค่าใช้จ่ายและความเสี่ยงในทุกขั้นตอนของกระบวนการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ดังนี้
ค่าขนส่งทั้งหมด : ตั้งแต่การรับสินค้าจากโรงงาน/คลังสินค้า (ต้นทาง) จนถึงที่อยู่ปลายทางของผู้รับ (Door-to-Door Service)
ค่าประกันภัย : (หากตกลงทำประกันภัย) เพื่อคุ้มครองความเสียหายหรือความสูญหายของสินค้าตลอดเส้นทาง
ค่าดำเนินการพิธีการศุลกากรขาออกและขาเข้า : รวมถึงการจัดเตรียมเอกสาร การยื่นคำร้อง และการผ่านด่านศุลกากรของทั้งสองประเทศ
ค่าภาษีอากรและค่าธรรมเนียมทั้งหมดในประเทศปลายทาง : สิ่งนี้คือจุดที่ทำให้ DDP แตกต่างจากเงื่อนไขอื่น ๆ เนื่องจากผู้ขายจะต้องรับผิดชอบค่าภาษีนำเข้า (Import Duties), ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT/GST) และค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
ซึ่งทั้งหมดจะถูกรวมอยู่ในราคาเดียวที่ผู้ซื้อได้จ่ายเงินไปและไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ แอบแฝง เรียกว่าเป็นการส่งของแบบเหมาภาษีด้วยเงื่อนไข DDP ทำให้สามารถส่งสินค้าไปถึงมือผู้รับแบบครบจบ และไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ผู้ขายหรือผู้ให้บริการ Shipping จะต้องมีความเชี่ยวชาญในด้านการจัดการศุลกากร ภาษีปลายทาง ทั้งยังจะต้องเลือกเส้นทางการขนส่งที่เหมาะสม
DDP แตกต่างจาก DAP/DDU อย่างไร ?
นอกจากนี้ ยังมีเงื่อนไขการส่งสินค้าที่คล้ายคลึงกับรูปแบบ DDP แต่มีความแตกต่างกันในรายละเอียดของความรับผิดชอบหลัก นั่นก็คือการเงื่อนไขการขนส่งในแบบ DAP (Delivered at Place) และ DDU (Delivered Duty Unpaid) ซึ่งแต่ละแบบมีรายละเอียดเงื่อนไขที่ต่างกัน ดังนี้
การเปรียบเทียบความรับผิดชอบหลักในเงื่อนไขการขนส่ง
จะเห็นได้ว่า DDP term คือเงื่อนไขเดียวที่ผู้ส่ง/ผู้ขาย ยอมรับความเสี่ยง และพร้อมรับผิดชอบในทุก ๆ ด้าน ซึ่งจะทำให้ผู้ซื้อปลายทางได้รับความสะดวกสบายอย่างสูงที่สุด
ข้อดีของการใช้บริการแบบ DDP สำหรับธุรกิจ
การส่งของแบบเหมาภาษีแม้จะเพิ่มความรับผิดชอบให้กับผู้ขาย แต่ก็แลกมาด้วยข้อได้เปรียบทางธุรกิจที่แข็งแกร่งและช่วยต่อการขยายตลาดในต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บริหารต้นทุนได้แน่นอนและสร้างความโปร่งใส
การขนส่งสินค้าแบบส่งของแบบเหมาภาษี จะช่วยให้ธุรกิจสามารถคำนวณต้นทุนการขนที่ส่งรวมภาษีนำเข้าล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ และกำหนดราคาสินค้าสุดท้าย (Landed Cost) ได้คงที่ ทำให้ง่ายต่อการวางแผนธุรกิจ การเงิน และการกำหนดกลยุทธ์ด้านราคาเพื่อแข่งขันในตลาดโลก อีกทั้งความโปร่งใสของราคายังช่วยลดความขัดแย้งระหว่างลูกค้าปลายทาง จากการต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอย่างไม่ได้คาดคิด
สร้างความพึงพอใจให้แก่กลุ่มลูกค้า
นี่คือข้อดีของ DDP ที่ชัดเจนที่สุดในมุมมองของผู้บริโภค เนื่องจากคงไม่มีใครที่ชอบการจ่ายเงินเพิ่มเมื่อพัสดุมาถึง (Surprise Charges) การที่ผู้ขายรับผิดชอบทุกอย่างตามเงื่อนไข Delivered Duty Paid และการันตีราคาเดียวจบจะช่วยสร้างประสบการณ์การซื้อที่ดีเยี่ยม (Excellent Customer Experience) เพิ่มความภักดีต่อแบรนด์ และเพิ่มโอกาสในการกลับมาซื้อซ้ำอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งสำคัญอย่างยิ่งในการทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน
เพิ่มความน่าเชื่อถือและโอกาสในการทำตลาด
การรับผิดชอบเรื่องภาษีทั้งหมดสะท้อนถึงความเป็นมืออาชีพและความพร้อมของผู้ขายในการจัดการกับระเบียบข้อบังคับที่ซับซ้อนในประเทศปลายทาง ทำให้แบรนด์มีความน่าเชื่อถือสูงขึ้น และสามารถขยายโอกาสในการทำตลาดกับประเทศที่มีกฎระเบียบที่เข้มงวดอื่น ๆ โดยเฉพาะตลาดที่มีการควบคุมภาษีสูง ซึ่งผู้ซื้อต้องการความชัดเจนในเรื่องของราคาสินค้าที่ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ เพิ่มเติม
ลดความเสี่ยงของสินค้าเสียหายหรือติดด่านศุลกากร
เนื่องจากผู้ขายต้องเป็นผู้ดำเนินการพิธีการศุลกากรขาเข้าเอง จึงต้องมั่นใจว่าเอกสารทั้งหมดถูกต้องและครบถ้วน ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงที่สินค้าจะติดค้างอยู่ที่ด่านศุลกากรเป็นเวลานาน หรือถูกปฏิเสธการนำเข้าจากการเตรียมเอกสารที่ไม่ครบถ้วน การควบคุมกระบวนการทั้งหมดนี้จะช่วยลดความเสี่ยงของสินค้าเสียหายระหว่างการขนส่งได้ดีกว่า
วิธีเลือกบริษัท Shipping ที่รองรับ DDP และเหมาภาษีได้

ความสามารถในการจัดการภาษีและศุลกากร : บริษัท Shipping ต้องมีบริการครบทั้งส่งของแบบเหมาภาษีและส่งพัสดุไปต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องมีประสบการณ์ด้านศุลกากรและภาษีในหลายประเทศ และสามารถเคลียร์ Duties และ VAT แทนผู้ส่งได้อย่างถูกกฎหมาย
บริการตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง (Door-to-Door) : ตรวจสอบให้แน่ใจว่าให้บริการครอบคลุมทั้งกระบวนการ ตั้งแต่การรับสินค้า การขนส่งหลัก การจัดการศุลกากร และการนำส่งถึงมือผู้รับปลายทาง
ความโปร่งใสของค่าใช้จ่าย : บริษัทควรมีการแจ้งรายการค่าใช้จ่ายและเงื่อนไขอย่างโปร่งใสตั้งแต่แรก เพื่อให้ผู้ส่งสามารถคำนวณต้นทุนสุดท้ายได้อย่างแม่นยำ และไม่มีค่าธรรมเนียมซ่อนเร้นตามมาภายหลัง
มีเครือข่ายและพันธมิตรในต่างประเทศ : ความสามารถในการให้บริการ DDP อย่างราบรื่นขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของเครือข่ายท้องถิ่นในประเทศปลายทาง เพื่อให้มั่นใจว่าการนำเข้าและการจัดส่งในขั้นตอนสุดท้ายจะทำได้อย่างรวดเร็วและเป็นไปตามกฎระเบียบของประเทศปลายทางทั้งหมด
การเลือกใช้เงื่อนไข DDP หรือบริการส่งพัสดุแบบเหมาภาษี เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับธุรกิจที่ต้องการลดความซับซ้อนและเพิ่มความมั่นใจให้แก่ผู้ซื้อปลายทาง แต่จำเป็นจะต้องเลือกบริษัทส่งพัสดุไปต่างประเทศที่มีความเชี่ยวชาญอย่างแท้จริง หากกำลังมองหาบริการครบวงจรด้านส่งพัสดุแบบเหมาภาษีที่ไว้ใจได้ EZY EXPRESS พร้อมให้บริการอย่างมืออาชีพ ด้วยทีมงานที่เชี่ยวชาญด้านขนส่งระหว่างประเทศ ปรึกษาเจ้าหน้าที่เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 061-398-3300 หรือ LINE Official @ezyexpress
EZY EXPRESS Team
พวกเราคือทีมจาก EZY EXPRESS ที่มีประสบการณ์ด้านการขนส่งสินค้าไปต่างประเทศมากกว่า 30 ปี เราเชี่ยวชาญในการขนส่งระหว่างประเทศ ทั้งทางเรือ ทางอากาศ และทางบก ครอบคลุมทุกการขนส่งแบบครบวงจรด้วยมาตรฐานระดับสากล ซึ่งเราตั้งใจอยากจะแชร์ความรู้ที่เป็นประโยชน์ เพื่อให้การส่งสินค้าไปต่างประเทศของทุกคนเป็นเรื่องที่ง่ายและสะดวกขึ้น
แหล่งอ้างอิง
Delivered Duty Paid (DDP). สืบค้นเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 จาก https://www.ups.com/hk/en/supplychain/resources/glossary-term/delivered-duty-paid




Comments