ข้อควรรู้เกี่ยวกับขนาดกล่องพัสดุ รู้ไว้ส่งของได้สะดวก!

สำหรับผู้ประกอบการ รวมถึงบุคคลทั่วไปที่ต้องการส่งของไปยังต่างประเทศ หนึ่งในขั้นตอนที่ต้องให้ความสำคัญเพื่อให้กระบวนการเป็นไปอย่างราบรื่นคือการเลือก “ขนาดกล่องพัสดุ” ที่เหมาะสม แต่เชื่อว่ายังมีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่รู้ว่าไซส์กล่องพัสดุสำหรับส่งของไปต่างประเทศมีกี่ไซส์ และแต่ละไซส์มีขนาดเท่าไร บทความนี้จะมาไขข้อสงสัยให้ได้รู้กัน พร้อมแนะเคล็ดลับการเลือกกล่องพัสดุให้ตอบโจทย์กับการใช้งาน ไปจนถึงวิธีการคำนวณน้ำหนักของกล่องเพื่อให้รู้ถึงค่าใช้จ่ายในการจัดส่ง ติดตามได้เลย

ขนาดกล่องพัสดุมีไซส์เท่าไรบ้าง?

เรื่องขนาดไซส์กล่องพัสดุสามารถอธิบายให้เข้าใจได้ง่าย ๆ โดยขนาดของกล่องจะมีอยู่ 2 รูปแบบด้วยกัน คือขนาดกล่องพัสดุมาตรฐานและกล่องพัสดุขนาดพิเศษ สำหรับกล่องในขนาดมาตรฐานนั้น โดยทั่วไปจะมีหลายขนาดให้เลือกใช้ คือ

• เบอร์ A ขนาด 14 X 20 X 6 ซม.

• เบอร์ B ขนาด 17 X 25 X 9 ซม.

• เบอร์ C ขนาด 20 X 30 X 11 ซม.

• เบอร์ D ขนาด 22 X 35 X 14 ซม.

• เบอร์ E ขนาด 24 X 40 X 17 ซม.

• เบอร์ F ขนาด 30 X 45 X 20 ซม.

• เบอร์ G ขนาด 31 X 36 X 26 ซม.

• เบอร์ H ขนาด 40 X 45 X 34 ซม.

• เบอร์ I ขนาด 45 X 55 X 40 ซม.

อย่างไรก็ตาม สิ่งของบางประเภทอาจจะมีรูปทรงและขนาดที่เฉพาะตัวมาก ๆ ทำให้ไม่สามารถบรรจุลงกล่องขนาดมาตรฐานได้พอดี จึงทำให้ต้องมี “กล่องพัสดุขนาดพิเศษ” ไว้สำหรับช่วยแก้ไขปัญหานี้ โดยกล่องพัสดุประเภทนี้จะผลิตขึ้นตามความต้องการเฉพาะของลูกค้า เพื่อการบรรจุสินค้าได้อย่างพอดี

คำแนะนำในการเลือกขนาดกล่องพัสดุ

ในการเลือกไซส์กล่องพัสดุให้เหมาะสม ควรเลือกขนาดกล่องที่ใหญ่กว่าขนาดของสินค้าอย่างน้อย 2 เซนติเมตรในแต่ละด้าน เพื่อป้องกันการกระแทกระหว่างการขนส่ง นอกจากนี้ ผู้ประกอบการควรพิจารณารูปแบบการขนส่ง รวมถึงขนาด น้ำหนัก และรูปทรงของสินค้า เพื่อให้ได้กล่องพัสดุที่เหมาะสมกับของที่ทำการจัดส่ง โดยการเลือกขนาดกล่องพัสดุสามารถทำตามขั้นตอนง่าย ๆ ดังต่อไปนี้

1. วัดขนาดของสินค้าทั้ง 3 ด้าน (กว้าง x ยาว x สูง)

2. เพิ่มระยะเผื่อประมาณ 5-10 เซนติเมตรในแต่ละด้าน เพื่อป้องกันการกระแทก

3. เลือกขนาดกล่องที่ใหญ่กว่าขนาดของสินค้าอย่างน้อย 2 เซนติเมตรในแต่ละด้าน

ปัจจัยในการเลือกกล่องพัสดุ

เพื่อให้มั่นใจว่าสิ่งของที่บรรจุลงในกล่องพัสดุจะเดินทางไปถึงผู้รับปลายทางได้อย่างราบรื่น ผู้ส่งจำเป็นจะต้องคำนึงถึงในหลาย ๆ ปัจจัย เพื่อเลือกกล่องพัสดุที่เหมาะสมที่สุด

• ขนาดของสินค้า: สิ่งสำคัญคือต้องเลือกกล่องที่มีขนาดพอดีกับสินค้า เพื่อป้องกันไม่ให้สินค้าเสียหายระหว่างการขนส่ง

• น้ำหนักของสินค้า: น้ำหนักของสินค้าเป็นตัวกำหนดขนาดกล่องพัสดุ รวมถึงวัสดุของกล่อง เพราะสินค้าที่มีน้ำหนักมาก หากบรรจุลงในกล่องที่ผลิตจากวัสดุบอบบาง ก็อาจเกิดเหตุการณ์ที่กล่องรับน้ำหนักไม่ไหว จนสินค้าทะลุกล่องออกมาได้

• ประเภทของสินค้า สินค้าบางประเภทอาจต้องการกล่องที่มีขนาดหรือวัสดุพิเศษ เช่น สินค้าเปราะบางอาจต้องใช้กล่องที่แข็งแรงเป็นพิเศษ

ขนาดกล่องพัสดุกับราคาที่ต้องจ่าย

โดยทั่วไป ผู้ให้บริการขนส่งจะคิดค่าขนส่งตามน้ำหนักสุทธิของพัสดุ โดยรวมทั้งสินค้าภายในและตัวกล่อง แต่ถ้าหากพัสดุที่ทำการจัดส่งมีน้ำหนักเบาแต่มีขนาดกล่องที่ใหญ่ ค่าขนส่งก็จะถูกคำนวณจากน้ำหนักตามปริมาตร (Volumetric Weight) โดยใช้การคำนวณค่าขนส่งจากขนาดของกล่องคือ กว้าง x ยาว x สูง / 5,000 ก็จะได้น้ำหนักตามปริมาตร (กิโลกรัม) ของกล่อง

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ สมมติว่าผู้ประกอบการต้องการส่งสินค้าที่มีน้ำหนักสุทธิ 1 กิโลกรัม และบรรจุในกล่องพัสดุที่มีขนาดกว้าง x ยาว x สูง เท่ากับ 40 x 25 x 15 เซนติเมตร น้ำหนักปริมาตรของกล่องพัสดุ = (40 x 25 x 15) / 5000 = 1.5 กิโลกรัม ดังนั้น ผู้ประกอบการจะต้องจ่ายค่าขนส่งตามน้ำหนักปริมาตร 1.5 กิโลกรัม

ส่งพัสดุไปต่างประเทศแบบไร้ปัญหา เลือกใช้ Ezy Express

ถึงตรงนี้ เชื่อว่าทุกคนน่าจะเข้าใจเรื่องขนาดกล่องพัสดุสำหรับส่งไปต่างประเทศกันแล้ว และหากใครอยากส่งพัสดุไปต่างประเทศแบบไร้ปัญหา น่าเชื่อถือ มั่นใจว่าของส่งถึงปลายทาง สามารถใช้บริการส่งของไปต่างประเทศราคาถูกกับ Ezy Express ที่นอกจากจะเป็นมิตรด้านราคาแล้ว ยังไม่ต้องปวดหัวกับเรื่องเอกสาร หรือจัดการกับพิธีการศุลกากร เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการส่งสินค้าไปต่างประเทศแบบครบวงจรในมาตรฐานสากล มีบริการที่หลากหลายในราคาจับต้องได้ เริ่มตั้งแต่รับสินค้าให้ถึงบ้าน พร้อมแพ็กสินค้าให้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย เรียกได้ว่าไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง ช่วยให้ชีวิตของคุณง่ายและสะดวกสบายยิ่งขึ้น ส่งถึงไว ปลอดภัย ถึงปลายทาง ติดต่อสอบถามเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมผ่านสายด่วน Ezy Express ได้ที่เบอร์ 061-398-3300 หรือ LINE Official @ezyexpress

คำนวณค่าส่งพัสดุ