การส่งของไปต่างประเทศนั้น สมัยนี้ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป จะเห็นได้ว่าเรามีบริการมากมายที่ให้ความสะดวกกับเรา
ไม่ว่าจะเป็น รับของถึงหน้าบ้าน บริการส่งถึงหน้าบ้านในราคาเดียว บริการเลือกจ่ายภาษีให้แก่ผู้รับ และอื่น ๆ แต่ที่ขาดไม่ได้เหมือนกันเลยคือ... บริการแพ็คสินค้า
การแพ็คสินค้า ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม เราจะสามารถรู้ได้อย่างไรว่า สินค้าที่เราต้องการจัดส่งนั้น ต้องแพ็คแบบไหนจึงจะเหมาะสมที่สุด วันนี้เรามีคำแนะนำมาฝากกันครับ
1. แพ็คลงลังกระดาษ
การแพ็คลงลังกระดาษเป็นการแพ็คแบบทั่วไป พบได้แทบจะทุกที่ การแพ็คแบบลังกระดาษเพื่อส่งพัสดุไปต่างประเทศนั้น นิยมใช้กระดาษหนา 50 มม. เพราะมีความแข็งแรงทนทานต่อแรงกระแทก สินค้าที่นิยมส่งด้วยการแพ็คแบบลังกระดาษไปจะเป็นจำพวกของใช้ส่วนตัวเช่น เสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า หนังสือ สมุด โบชัวร์ และอื่น ๆ โดยสินค้าแต่ละประเภทก็สามารดนำวัสดุอื่นมาเสริมความแข็งแรงได้ ไม่ว่าจะเป็น บับเบิ้ล โฟม เม็ดโฟม กระดาษแข็ง สิ่งเหล่าล้วนช่วยลดแรงกระแทกจากภายนอกได้ทั้งนั้น หากให้พูดกันตามตรงการแพ็คดังกล่าวยังถือว่าปลอดภัยน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับอย่างอื่น แต่ในขณะเดียวกัน ก็ราคาประหยัดที่สุดเช่นกัน
2. วางบนพาเลต
การวางบนพาเลต นิยมใช้กันเมื่อต้องการส่งสินค้าไปทางเรือ ไม่ว่าจะเป็นการส่งสินค้าแบบ ไม่เต็มตู้ (LCL) หรือเต็มตู้ (FCL) เนื่องจากสามารถยึดสินค้าไว้ ไม่ให้ล้ม, กระทบกับสินค้าของผู้อื่น หรือกระทบกันเอง การวางบนพาเลตนิยมแพ็คป้องกันไว้ส่วนหนึ่งแล้วเช่น แพ็คลงลังกระดาษไว้แล้วหรือมีภาชนะใส่ดีแล้ว เมื่อนำมาวางบนพาเลต ก็จะมีการห่อพลาสติกใสคลุมไว้อีกทีหนึ่ง ซึ่งจะทำให้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยการยกสินค้าที่วางบนพาเลตแล้วนั้น ต้องใช้รถยกเท่านั้นจึงจะทำได้ จึงทำให้เรามั่นใจได้ว่า จะไม่มีการโยนสินค้าของเราอย่างแน่นอน แต่ผู้ส่งก็ต้องยอมรับในราคาที่เพิ่มขึ้นเช่นกันเนื่องจาก การวางสินค้าบนพาเลตนั้นบางที่มีการคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และทางขนส่งจำต้องนับ
น้ำหนักพาเลตและขนาดของพาเลตในการคำนวณ
ราคาค่าส่งอีกด้วย
3. ตีลังโปร่ง
การตีลังโปร่งนั้นนิยมใช้กับทั้งการส่งของไปต่างประเทศทางเรือและการส่งสินค้าทางอากาศ ใช้กับสินค้าที่ต้องการวางพาเลตแต่อยากได้ความปลอดภัยเพิ่มขึ้น เนื่องจาก การวางสินค้าบนพาเลตนั้น สินค้าไม่สามารถถูกโยนได้จริง แต่ หนีไม่พ้นการวางทับกันของสินค้า ซึ่งก็อาจทำให้สินค้าของเราเสียหายได้ การตีลังโปร่งจะช่วยป้องกันสินค้าของเราจากความเสียหายที่เกิดจากการวางทับได้ และช่วยป้องกันไม่ให้สินค้าของเราล้มลงมาอีกด้วย ด้านความปลอดภัยนั้นต้องมากกว่าการวางพาเลตและการแพ็คลงกล่องอย่างแน่นอน และค่าใช้จ่ายก็จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน
4. ตีลังทึบ
การตีลังทึบนิยมตีกันทั่วไป สำหรับสินค้าเปราะบางเช่น กรอบรูป, รูปปั้น, รูปวาด, งานปูน และสินค้าราคา
สูงอื่น ๆ ที่อยากได้ความปลอดภัยสูง โดยสินค้าไม่จำเป็นต้องมีการแพ็คมากก่อน โดยทั่วไปการแพ็คแบบตีลังทึบจะได้รับความนิยมกว่าการตีลังโปร่ง เพราะการตีลังโปร่งยังมีช่องไม้ทำให้เห็นตัวสินค้าได้ หากมีของกระแทกเข้าไปผ่านช่องเหล่านั้นจะทำให้สินค้าเสียหายได้เช่นกัน แต่ความปลอดภัยที่มากขึ้นมีค่าใช้จ่ายที่มาก
กว่าเช่นกัน
เมื่อเราอ่านมาถึงจุดนี้ เราก็สามารถรู้คร่าว ๆ ได้แล้วว่าการแพ็คแบบใดเหมาะกับของหรือสินค้าของเรา แต่อย่างไรก็ตาม การปรึกษากับผู้ที่ชำนาญด้านการขนส่งก็ยังจำเป็น ยิ่งถ้าหากเราไม่เคยส่งสินค้าชนิดนั้น ๆ มาก่อน เนื่องจากยังมี
ข้อกำหนดอีกหลายข้อที่เราอาจยังไม่รู้ เช่น การส่งไม้ที่มีระยะเวลาหลังจากรมยาเกินกำหนด จะไม่สามารถนำเข้าใน
บางประเทศได้ (การตีลังไม้ต้องมีการรมยาเพื่อป้องกันแมลง) เป็นต้น